การเทรดแบบถือสถานะ: การล้อคลื่นแห่งการเทรดหุ้นระยะยาว

Stanislav Bernukhov

ผู้เชี่ยวชาญด้านการเทรดอาวุโสของ Exness

เริ่มเทรดเลย

ข้อมูลนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุน ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาไม่อาจใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ผลการดำเนินงานในอนาคต เงินลงทุนของคุณมีความเสี่ยง โปรดเทรดอย่างรอบคอบ

แชร์

ตามคำนิยามแล้ว การเทรดแบบถือสถานะคือกลยุทธ์ที่ใช้ในตลาดการเงิน โดยเฉพาะตลาดหุ้น คอมโมดิตี้ และตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (ฟอเร็กซ์) เป็นหลัก วิธีการนี้เป็นการถือสถานะการเทรดเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ หลายเดือน หรือแม้แต่หลายปี ภายใต้ความเชื่อที่ว่ามูลค่าของสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้นไปตามระยะเวลาที่นานขึ้น

เมื่อนำไปใช้กับตลาดหุ้น การเทรดแบบถือสถานะอาจมีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษ เนื่องจากหุ้นหลายตัวมีแนวโน้มจะมีการเคลื่อนไหวของราคาอย่างมากในระยะยาว

ตัวอย่างเช่น หุ้น TSLA ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 23 ดอลลาร์ในปี 2020 มาทำจุดสูงสุดที่ 433 ดอลลาร์ในปี 2021* แม้จะมีเส้นทางที่ขุขระ แต่ก็ยังมีโอกาสในการเทรดแบบถือสถานะระยะยาวหลายครั้งสำหรับ TSLA ในระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว

ในบทความนี้ เราจะมากล่าวถึงองค์ประกอบสำคัญที่เทรดเดอร์แบบถือสถานะทุกคนจำเป็นต้องคำนึงถึงเมื่อสร้างกลยุทธ์การเทรดแบบถือสถานะในการเทรดหุ้น รวมถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน การระบุแนวโน้มระยะยาวที่สำคัญ การทำความเข้าใจความผันผวนของตลาดและความเชื่อมั่นของตลาด รวมถึงความสี่ยงที่เกี่ยวข้องเมื่อเทียบกับกลยุทธ์การเทรดอื่นๆ

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการเทรดแบบถือสถานะ

ในอดีต การเทรดแบบถือสถานะเคยเป็นรูปแบบการเทรดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดหุ้นรองจากการลงทุนเชิงรับ เนื่องจากตลาดหุ้นได้ชื่อว่ามีแนวโน้มระยะยาวเป็นขาขึ้น ซึ่งเป็นจริงโดยเฉพาะกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ

เหตุผลที่เทรดเดอร์แบบถือสถานะชอบเทรดหุ้น

หุ้นที่เติบโตเร็วบางตัวสามารถให้ผลตอบแทนต่อปีในหลักสิบหรือหลักร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มระยะยาวที่ยั่งยืน นั่นทำให้การเทรดแบบถือสถานะน่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับการเทรดหุ้น

อีกหนึ่งเหตุผลที่การเทรดหุ้นระยะยาวได้รับความนิยมคือช่วงเวลาซื้อขายตามปกติในตลาดหุ้น NYSE หรือ Nasdaq มีเวลาจำกัดที่ 6.5 ชั่วโมงต่อวัน (ตั้งแต่ 09:30 ถึง 16:00 น.) ซึ่งอาจถือเป็นกรอบเวลาที่แคบเกินไปสำหรับการเทรดรายวัน การเทรดนอกเหนือจากช่วงเวลาที่จำกัดดังกล่าวถือเป็นการเทรด "ก่อนเปิดตลาด" หรือ "หลังตลาดปิด" ปริมาณการซื้อขายนอกช่วงเวลาการซื้อขายจะต่ำมาก เทรดเดอร์จังไม่นิยมเทรดในช่วงเวลาดังกล่าว

การเทรดหุ้นรายวันมีข้อจำกัดจากช่วงเวลาที่แคบมากเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้น การสวิงเทรดและการเทรดแบบถือสถานะจึงอาจเป็นรูปแบบการเทรดที่เหมาะสมกว่าสำหรับหุ้น

การเทรดแบบถือสถานะและการสวิงเทรดสำหรับหุ้น

การสวิงเทรดและการเทรดแบบถือสถานะเกี่ยวข้องกับการถือสถานะข้ามคืน (และบางครั้งก็ข้ามสัปดาห์) อย่างไรก็ตาม รูปแบบการเทรดสองประเภทนี้มีความแตกต่างกันที่จำเป็นจะต้องทราบ

เป้าหมายของสวิงเทรดเดอร์คือการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น และสามารถเทรดในกรอบราคาระยะสั้นได้ทั้งสองทิศทาง ขณะที่เทรดเดอร์แบบถือสถานะส่วนใหญ่จะต้องอาศัยแนวโน้มที่มีนัยสำคัญมากกว่าเพื่อทำกำไรก้อนโต

นั่นเป็นเหตุผลที่เทรดเดอร์แบบถือสถานะต้องให้ความสำคัญกับทั้งการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เพื่อช่วยคุณระบุ "ผู้แข่งขัน" ที่ดี นั่นคือหุ้นของบริษัทที่มีโอกาสเติบโตในระยะยาวและยังมีมูลค่าไม่สูงเกินไป

การทำความเข้าใจรูปแบบทางเทคนิคสำหรับการเทรดหุ้นแบบถือสถานะ

หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ต้องการเทรดในขาขึ้นที่เป็นเวลานาน (แนวโน้มระยะยาว) คุณอาจต้องการเข้าเทรดโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นเป็นเหตุผลที่รูปแบบที่เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับการเทรดแบบถือสถานะคือการทะลุกรอบของ "ฐานที่ยาวนาน" ซึ่งตามหลักการแล้วก็คือกรอบราคาระยะยาว

แม้ว่าการทะลุกรอบอาจเกิดขึ้นในหลายกรอบเวลา แต่แต่ละเหตุการณ์มีความสำคัญต่อเทรดเดอร์แบบถือสถานะแตกต่างกัน

ตัวอย่างที่ 1

เช่น TSLA มีการทะลุกรอบที่ค่อนข้างใหญ่จากช่วงราคาที่ใช้ระยะเวลานานในเดือนกันยายน 2021 ก่อนที่จะทะลุและปรับตัวสูงขึ้น ราคามีการสร้างฐานในช่วงราคาที่กว้างมากตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงเดือนตุลาคม ซึ่งใช้เวลาหกเดือนในการสร้างรูปแบบ หลังจากการทะลุกรอบ ราคาของ TSLA ก็ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 50% ไปทำจุดสูงสุดใหม่

นี่คือกราฟหุ้น TSLA ในเดือนตุลาคม 2021 และการทะลุกรอบ (ในวงกลม) ของช่วงราคาขนาดใหญ่ แหล่งที่มา: Tradingview.com

ตัวอย่างที่ 2

Eli Lilly (LLY) บริษัทด้านเภสัชกรรมของสหรัฐฯ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ "รูปแบบฐาน" ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ราคาจึงสร้างกรอบที่กว้างซ้ำๆ และมีการทะลุกรอบที่สามขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญในเดือนพฤษภาคม 2023 หลังจากนั้น ราคาของ LLY ก็ปรับตัวขึ้นมากกว่า 60%

ในตลาดหุ้น สถานการณ์ต่างๆ มักนำไปสู่แนวโน้มตลาดการทะลุกรอบขาขึ้น อย่างไรก็ตาม หุ้นบางตัวอาจสร้างฐานและทะลุกรอบลงมาด้านล่าง โดยราคาหุ้นยังอาจตกลงมา แต่แนวโน้มตลาดขาลงมักจะทำงานแตกต่างกัน

การสร้างรูปแบบขาขึ้นใช้เวลานาน ทำให้เทรดเดอร์มีเวลามากมายในการเตรียมตัว แต่ในตลาดขาลง ทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อตัดสินใจเทรดหรือวางแผนกลยุทธ์การเทรด คุณจะต้องคิดว่าตลาดขาขึ้นเป็นการไต่ขึ้นบันไดทีละขั้น แต่ตลาดขาลงจะตกลงมาอย่างรวดเร็วเหมือนกับการลงลิฟต์ โดยทั่วไปแล้ว ตลาดขาลงจะเหมาะกับสวิงเทรดเดอร์หรือเทรดเดอร์รายวันมากกว่า แต่หุ้นบางตัวก็ยังมีโอกาสเข้าสู่แนวโน้มขาลงระยะยาวด้วย

กราฟหุ้น LLY แสดงการทะลุกรอบครั้งใหญ่จากรูปแบบฐานในเดือนพฤษภาคม 2023 แหล่งที่มา: Tradingview.com

รูปแบบขาลงมักเกี่ยวข้องกับรูปแบบกราฟกลับตัวดั้งเดิม เช่น Head-and-Shoulders และ Double Tops

ตัวอย่างที่ 3

นี่คือตัวอย่างรูปแบบขาลงที่พบทั่วไปสำหรับการเทรดแบบถือสถานะในหุ้น Intel (INTC) โดยราคาสร้างรูปแบบ Head and Shoulder ขนาดใหญ่และมีการทะลุกรอบในเดือนมิถุนายน 2022 แนวโน้มขาลงนี้ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนตุลาคม 2022 ส่งผลให้ราคาปรับตัวลงเป็นเวลาประมาณสี่เดือน หุ้นมีมูลค่าลดลงมากกว่า 40% ในช่วงเวลาที่ยาวนานนี้ สำหรับเทรดเดอร์ การถือสถานะ Short ไว้อาจเป็นโอกาสที่ดี โดยเฉพาะหากถือสถานะ Long คู่กันอีกสถานะหนึ่ง

กราฟหุ้น INTC: รูปแบบ Head and Shoulder ขนาดใหญ่มีการทะลุกรอบในเดือนมิถุนายน 2022 แหล่งที่มา: Tradingview.com

การจัดการการเทรดหุ้นแบบถือสถานะ

คุณต้องใช้ความอดทนอย่างมากในการรอโอกาสที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม การจัดการสถานะอย่างเหมาะสมเมื่อเปิดสถานะขึ้นมาแล้วก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อไม่ให้ปิดสถานะเร็วเกินไป

เครื่องมือหลักที่เทรดเดอร์แบบถือสถานะใช้สำหรับกลยุทธ์เทรดแบบการจัดการสถานะคือคำสั่ง Stop Loss และ Trailing Stop

การตั้งคำสั่ง Stop Loss ในฐานะเทรดเดอร์แบบถือสถานะ

กลยุทธ์การเทรดแบบถือสถานะที่ดีจะต้องระบุจุดเข้าและออกอย่างแม่นยำและใช้เครื่องมือการจัดการความเสี่ยงเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียเงินอย่างรวดเร็วในกรณีที่ตลาดและราคามีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ดังนั้น ส่วนสำคัญของแผนการเทรดแบบถือสถานะคือการใช้เครื่องมือ Stop Loss ในทุกกรอบเวลาที่คุณเทรด อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องตั้ง Stop Loss ในระดับราคที่ห่างออกไปอีก ซึ่งห่างจากราคาที่เข้าถือสถานะมากกว่า ทั้งนี้เพื่อป้องกันการปิดสถานะเนื่องจากการดึงกลับ

หลายปีก่อน "เทรดเดอร์สายเต่า" ที่มีชื่อเสียงเป็นผู้ริเริ่มใช้แผนการเทรดแบบถือสถานะง่ายๆ เพื่อตั้ง Stop Loss ด้วยการให้คำปรึกษาจาก Richard Dennis นักเก็งกำไรคอมโมดิตี้ที่มีชื่อเสียงที่ได้ชื่อว่าเป็น "เจ้าชายแห่งตลาดคอมโมดิตี้" เทรดเดอร์แบบถือสถานะเหล่านี้จึงตั้ง Stop Loss ที่สองเท่าของค่าอินดิเคเตอร์ Average True Range ที่อ่านได้จากกรอบเวลารายวัน

สมมติว่าคุณเข้าถือสถานะ Short ของ INTC กลับในเดือนมิถุนายน 2022

จุดเข้าเทรดของสถานะ Short คือ 43 ดอลลาร์ ค่าของ ATR (20) ในกราฟรายวันคือ 1.57 ดอลลาร์ คุณจะตั้ง Stop Loss ที่ 46.14 ซึ่งห่างจากราคาเข้าเทรด 3.14 ดอลลาร์

ภาพด้านบนแสดงกราฟหุ้น INTC รายวันในเดือนมิถุนายน 2022 โดยมีการวาง Stop Loss เป็นสองเท่าของมูลค่าอินดิเคเตอร์ ATR ที่ 46.14 ดอลลาร์ แหล่งที่มา: Tradingview.com

เกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น

เราจะเห็นว่าหลังจากการปรับตัวลงในช่วงแรก ราคาดีดกลับไปที่ 45 ดอลลาร์ โดยทดสอบระดับเข้าเทรดอีกครั้ง Stop Loss ที่ 46.14 ดอลลาร์นั้นปลอดภัยและป้องกันไม่ให้มีการปิดคำสั่งซื้อขายก่อนเวลาที่เหมาะสม

กราฟรายวันของหุ้น INTC ในเดือนมิถุนายน 2022 Stop Loss ซึ่งวางไว้ที่ 46.14 ดอลลาร์ ยืนอยู่ได้หลังจากราคากลับมาทดสอบอีกครั้งและป้องกันการปิดสถานะนี้เร็วเกินไปได้สำเร็จ แหล่งที่มา: Tradingview.com

วิธีการจัดการการเทรดของเทรดเดอร์แบบถือสถานะ

เทรดเดอร์แบบถือสถานะอาจมีขั้นตอนในการเข้าเทรดแตกต่างกันออกไป

การเคลื่อนไหวของตลาดไม่ได้รวดเร็วหรือเป็นไปในทิศทางเดียวตลอดเวลา แต่มีความผันผวนของตลาดเกิดขึ้นเป็นระลอกขึ้นและระลอกลง กฎง่ายๆ ในเรื่องนี้คือการรอให้เกิดจุดสูงสุดของระลอกลงก่อน แล้วจึงปรับ Stop Loss ให้อยู่เหนือจุดสูงสุดนี้ โดยวาง Stop Loss ให้ห่างเป็นสองเท่าของค่า ATR

เรามาดูตัวอย่างจากการเทรด INTC เดียวกันกับที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ จุดสูงสุดของระลอกลงแรกอยู่ที่ 38.82 คุณจะต้องตั้งคำสั่ง Trailing Stop ที่ 41.99 ดอลลาร์ (สองเท่าของค่า ATR ซึ่งอยู่ที่ 1.36 ดอลลาร์ในเวลานั้น) แม้ว่าราคาจะสร้างจุดสูงสุดของระลอกลงอีกครั้งเหนือจุดสูงสุดครั้งแรก แต่ราคาก็ไม่ไปถึง Stop Loss อีก

กราฟรายวันของหุ้น INTC ในเดือนกรกฎาคม 2022 แสดงคำสั่ง Trailing Stop ที่ยืนอยู่ได้หลังการปรับฐานลึกและป้องกันการปิดสถานะเร็วเกิไปได้ แหล่งที่มา: Tradingview.com

สุดท้าย คำสั่งซื้อขายนี้ปิดที่ประมาณ 28.85 ดอลลาร์โดยมีกำไร 14 ดอลลาร์ต่อหุ้นด้วยความเสี่ยงเริ่มต้นที่ 3.14 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนกำไร/ขาดทุนที่เกือบ 5/1

กราฟรายวันของหุ้น INTC ในเดือนตุลาคม 2022 สถานะนี้ถูกปิดด้วยคำสั่ง Trailing Stop แหล่งที่มา: Tradingview.com

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในการเทรดหุ้น

การเทรดหุ้นจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ มากมาย แต่หนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญที่คุณจะต้องให้ความสนใจคือกำไรต่อหุ้น (EPS) ตัวชี้วัดนี้แสดงความสามารถในการหาเงินและเพิ่มรายได้ของบริษัท

กำไรต่อหุ้น (EPS) เป็นตัวชี้วัดทางการเงินที่ให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรและผลการดำเนินงานทางการเงินของบริษัท นี่เป็นตัวชี้วัดสำคัญสำหรับทั้งนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในการประเมินความน่าสนใจของหุ้นแต่ละตัว

การคำนวณกำไรต่อหุ้น

คุณสามารถคำนวณ EPS ได้โดยการหารรายได้สุทธิของบริษัทด้วยจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายทั้งหมด

EPS = (รายได้สุทธิ / จำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้ว)

ตามหลักการแล้ว หากบริษัทแสดงความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส หุ้นของบริษัทจะอยู่ในรายชื่อหุ้นที่กองทุนเฮดจ์ฟันด์จะซื้อ ทำให้หุ้นดังกล่าวเป็นที่ต้องการมากขึ้น

เช่น หากคุณตรวจสอบ EPS ที่คาดการณ์รายไตรมาสของหุ้น TSLA คุณจะเห็นการคาดการณ์การเติบโตอย่างสม่ำเสมอในไตรมาสที่กำลังจะมาถึง

ข้อมูลนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณควรซื้อหุ้นตัวนี้เสมอไป แต่เป็นตัวชี้วัดเชิงบวกซึ่งเพิ่มโอกาสที่การทะลุกรอบขาขึ้นจะประสบความสำเร็จ

การเปลี่ยนแปลงของ EPS เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาสของหุ้น TSLA ในเดือนตุลาคม 2023 รวมถึงการคาดการณ์ในไตรมาสต่อๆ ไป แหล่งที่มา: nasdaq.com

สรุปข้อมูลการเทรดหุ้นแบบถือสถานะ

  • เทรดเดอร์แบบถือสถานะอาจรอให้มีการทะลุกรอบของการสะสมฐานระยะยาวเพื่อเข้าเทรดได้ค่อนข้างเร็ว ซึ่งอาจใช้ระยะเวลาหลายเดือน
  • การจัดการสถานะมีความสำคัญเนื่องจากตลาดไม่ได้เติบโตหรือปรับตัวลงเป็นเส้นตรง ราคาของสินทรัพย์มักจะมีลักษณะเป็นระลอกขึ้นและระลอกลง
  • เทรดเดอร์แบบถือสถานะจะใช้ตัวชี้วัดด้านปัจจัยพื้นฐาน เช่น EPS เป็นต้น มาเป็นตัวสนับสนุนมุมมองทางเทคนิค เพื่อให้มีโอกาสประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้น

คำถามที่พบบ่อย

หุ้นที่เหมาะกับกลยุทธ์การเทรดแบบถือสถานะคือหุ้นเติบโต ซึ่งมักจะมีรายได้และอัตราการเติบโตของกำไรสม่ำเสมอ มีพื้นฐานที่ดีและมีผลประกอบการเป็นบวกมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ยังควรเลือกหุ้นของบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมชั้นนำ เช่น เทคโนโลยี ตัวอย่างที่ดีที่สุดอาจเป็น AAPL (บริษัท Apple) ซึ่งเป็นหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำ ซึ่งมีแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวและมีมูลค่าตามราคาตลาดสูง นอกจากลักษณะทางด้านปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้แล้ว หุ้นควรแสดงมุมมองด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง เมื่อใช้อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคต่างๆ

ไม่มีรูปแบบการเทรดใดที่ดีหรือแย่ในตัวเอง แต่จะต้องเลือกใช้รูปแบบที่ตรงกับบุคลิกนิสัยของคุณ แผนการเทรดแบบถือสถานะไม่ได้เหมาะกับทุกคน เนื่องจากการถือสถานะเป็นเวลานานอาจทำให้คุณไม่เห็นกำไรเป็นระยะเวลานาน หากตลาดไม่มีแนวโน้มในเวลานั้น ในทางตรงกันข้าม การเทรดรายวันจะอาศัยการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น ความแตกต่างที่สำคัญคือการเทรดรายวันจะมีความท้าท้ายมากกว่า เนื่องจากมีการแข่งขันภายในวันสูงและมีโอกาสทำกำไรที่จำกัด ยิ่งไปกว่านั้น เทรดเดอร์รายวันมักจะมีแนวโน้มผิดพลาดและตัดสินใจผิดมากกว่า เนื่องจากเทรดภายใต้แรงกดดันในสภาพแวดล้อมการเทรดที่มีความรวดเร็วสูง

ในฐานะเทรดเดอร์แบบถือสถานะ คุณสามารถถือสถานะได้เป็นเวลานานและปล่อยให้ตลาดทำงาน หากคุณเลือกหุ้นที่ถูกต้องและใช้การจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ความท้าทายที่สำคัญของคุณคือการค้นหาหุ้นและเวลาเข้าเทรดที่เหมาะสม

เทรดเดอร์แบบถือสถานะมักจะใช้กราฟรายวัน อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์แต่ละรายเลือกใช้กรอบเวลาที่แตกต่างกันในการปรับเปลี่ยนจุดเข้าเทรดของตนเอง เช่น คุณอาจวิเคราะห์กราฟรายวันและเข้าถือสถานะด้วยกราฟรายสี่ชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมง อย่างไรก็ตาม กรอบเวลาหลักที่เทรดเดอร์แบบถือสถานะมักใช้กันก็ยังคงเป็นกราฟรายวัน

เมื่อพูดถึงการเทรดแบบถือสถานะ เราจะอ้างอิงถึงการเทรดตามแนวโน้มระยะยาว หากเทรดเดอร์แบบถือสถานะต้องการเทรดตามแนวโน้มระยะยาว ก็จะต้องค้นหาแนวโน้มที่แข็งแกร่งก่อน ซึ่งหมายถึงการเลือกหุ้นแข็งแกร่งที่มีโอกาสเติบโตดีและมีพื้นฐานดี

เทรดเดอร์ต้องค้นหาทั้งหุ้นที่เหมาะสมและเวลาเข้าเทรดที่เหมาะสม โดยทั่วไป เทรดเดอร์รายวันจะมองหากรอบราคาที่ยาวนานซึ่งกำลังจะมีการทะลุกรอบ เมื่อเกิดการทะลุกรอบ คุณสามารถเข้าเทรดแนวโน้มระยะยาวได้ค่อนข้างเร็ว ส่งผลให้มีอัตราส่วนกำไร/ขาดทุนที่ดี

ตามหลักการแล้ว ควรใช้บัญชีที่ไม่มีค่าสว็อปในการเทรดแบบถือสถานะ แม้ว่าจะมีต้นทุนสูงกว่า เนื่องจากสว็อปอาจทำให้สัดส่วนกำไรจากการเทรดลดลง แต่มักมีมูลค่าไม่มากนัก หากคุณถือสถานะไม่เกินหนึ่งหรือสองสัปดาห์ คุณสามารถใช้บัญชีซื้อขายประเภทใดก็ได้ในการเทรดรูปแบบนี้

พร้อมลองการเทรดหุ้นแบบถือสถานะแล้วหรือยัง

การเทรดแบบถือสถานะในตลาดหุ้นอาจเป็นกลยุทธ์การลงทุนระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนดี โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของราคาครั้งใหญ่ที่ใช้เวลานาน ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว การเติบโตอย่างมากของ TSLA ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแสดงถึงโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับเทรดเดอร์แบบถือสถานะ เมื่อมีความรู้และกลยุทธ์ที่เหมาะสม คุณจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มตลาดการเงินเหล่านี้ได้ดียิ่งขึ้น

การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม การลงทุนแต่ละครั้งก็แตกต่างกันและการมีพาร์ทเนอร์ที่เชื่อถือได้เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่ง Exness สามารถช่วยคุณได้ นอกเหนือจากความเชี่ยวชาญที่ผ่านบทพิสูจน์ต่างๆ มากมาย เรายังมีแพลตฟอร์มและเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงเงื่อนไขที่เหนือกว่าตลาด และมาตรการป้องกันต่างๆ เพื่อสนับสนุนการเทรดแบบถือสถานะของคุณ รออะไรอยู่ เริ่มเทรดกับ Exness เลยวันนี้และสัมผัสความตื่นเต้นของตลาดการเงินด้วยตนเอง

แชร์


เริ่มเทรดเลย

ข้อมูลนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุน ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาไม่อาจใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ผลการดำเนินงานในอนาคต เงินลงทุนของคุณมีความเสี่ยง โปรดเทรดอย่างรอบคอบ